ซีซั่นที่ 5 ของ Game of Thrones ดำเนินเรื่องราวด้วยความซับซ้อนที่ทวีคูณในทุกเส้นทางการเมืองและการแย่งชิงอำนาจในเวสเทอรอสและเอสซอส
ไทเรียน แลนนิสเตอร์ หลังจากเหตุการณ์ฆ่าบิดาของเขา ต้องหนีไปยังทวีปเอสซอส ที่ซึ่งเขาได้พบกับ วาริส และการเดินทางเพื่อค้นหาทางรอดใหม่ ไทเรียนเริ่มต้นบทบาทใหม่ในฐานะที่ปรึกษาของ แดเนริส ทาร์แกเรียน ผู้พยายามยึดครองบัลลังก์เหล็ก แต่ต้องเผชิญหน้ากับการกบฏในเมืองมีรีนและการท้าทายจากกลุ่ม Sons of the Harpy
จอน สโนว์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการแห่ง Night’s Watch และต้องเผชิญกับความขัดแย้งในการนำพา Night’s Watch ให้เตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามจาก White Walkers ขณะเดียวกัน สแตนนิส บาราเธียน ผู้มุ่งมั่นจะครองบัลลังก์ ใช้กำลังทั้งหมดเพื่อพิชิตวินเทอร์เฟล โดยหวังให้จอนได้สนับสนุน
ทางฝั่ง ซานซา สตาร์ค ถูกส่งกลับไปยังวินเทอร์เฟลเพื่อแต่งงานกับ แรมซีย์ โบลตัน ชายผู้โหดเหี้ยมอย่างน่าสะพรึงกลัว ซานซาต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดและหาทางหลุดพ้นจากการควบคุมของตระกูลโบลตัน
ใน คิงส์แลนดิ้ง การมาถึงของกลุ่มนิกาย “Sparrows” และ ไฮสแปร์โรว์ ผู้นำศาสนาผู้ทรงอิทธิพล ทำให้การเมืองในเมืองหลวงปั่นป่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ที่ต้องต่อสู้เพื่อรักษาอำนาจของตนเอง แต่กลับต้องพบกับผลลัพธ์ที่ไม่คาดฝัน
ซีซั่นนี้ยังนำเสนอเรื่องราวในดอร์น เมื่อ เจมี่ แลนนิสเตอร์ และ บรอนน์ ถูกส่งไปเพื่อนำตัวเจ้าหญิง มีร์เซลลา บาราเธียน กลับมา แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มแซนด์สเนคส์ ผู้ต้องการแก้แค้นให้เจ้าชายโอบาริน
ความตื่นเต้นของซีซั่น 5:
เต็มไปด้วยการหักหลัง แผนการทางการเมือง และการเผชิญหน้ากับความสูญเสีย ซีซั่นนี้นำผู้ชมไปสู่การเปิดเผยพลังและความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ขึ้นของตัวละคร พร้อมกับการวางรากฐานสำหรับความขัดแย้งในซีซั่นต่อไป