ในซีซั่นสุดท้ายของซีรีส์ Spartacus: War of the Damned ความขัดแย้งระหว่างกบฏและอาณาจักรโรมันได้ทวีความรุนแรงจนถึงจุดแตกหัก หลังจากความสำเร็จในการโค่นล้ม Gaius Claudius Glaber ผู้นำกองทัพโรมันที่เคยเป็นภัยคุกคาม สปาร์ตาคัส (รับบทโดย Liam McIntyre) และกองทัพทาสที่หลบหนีได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมหาศาล จนกลายเป็นกองกำลังที่แม้แต่กรุงโรมยังต้องหวาดหวั่น
สปาร์ตาคัสไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่การแก้แค้น แต่เขาต้องการล้มล้างระบบทาสในกรุงโรมทั้งหมดและสร้างอิสรภาพให้กับผู้ถูกกดขี่ ขณะที่เขาต้องรับบทบาทผู้นำที่นำพากลุ่มผู้คนหลากหลายมารวมกันภายใต้ธงแห่งอิสรภาพ พันธมิตรของเขาอย่าง Crixus (รับบทโดย Manu Bennett), Gannicus (รับบทโดย Dustin Clare) และ Agron (รับบทโดย Dan Feuerriegel) ต่างช่วยกันเสริมสร้างกองทัพกบฏให้แข็งแกร่งขึ้น
แต่ในขณะเดียวกัน โรมก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อภัยคุกคามนี้ได้ กองทัพโรมันนำโดยแม่ทัพผู้โหดเหี้ยม Marcus Licinius Crassus (รับบทโดย Simon Merrells) และทหารหนุ่มผู้ทะเยอทะยาน Julius Caesar (รับบทโดย Todd Lasance) ได้รับมอบหมายให้ยุติกบฏครั้งนี้ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
War of the Damned เป็นซีซั่นที่เต็มไปด้วยฉากการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ การวางแผนกลยุทธ์ที่ซับซ้อน และการตัดสินใจที่เต็มไปด้วยความสูญเสีย ทั้งจากฝ่ายโรมและกองทัพกบฏ ซีรีส์นี้นำเสนอถึงจุดสูงสุดของการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ความเสียสละเพื่ออุดมการณ์ และความสัมพันธ์ที่ทดสอบความภักดีในหมู่กบฏ
ในตอนจบที่แสนสะเทือนใจ ซีรีส์นี้ยังคงยึดมั่นในจิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่ออิสรภาพ พร้อมกับปิดฉากเรื่องราวของนักรบผู้ลุกขึ้นท้าทายอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างสมศักดิ์ศรี