ซีรีส์ True Blood ซีซั่น 2 เป็นภาคต่อที่เข้มข้นยิ่งขึ้นจากซีซั่นแรก โดยยังคงผสมผสานเรื่องราวแนวดราม่า แฟนตาซี และความสยองขวัญไว้อย่างลงตัว ในซีซั่นนี้ เมือง บอน แทมป์ส กลับมาวุ่นวายอีกครั้งเมื่อภัยคุกคามครั้งใหม่เข้ามาเยือน
ซูกี้ สแต็คเฮาส์ (รับบทโดย Anna Paquin) และ บิล คอมป์ตัน (รับบทโดย Stephen Moyer) ต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ประหลาดที่เกี่ยวพันกับลัทธิและพลังมืด เมื่อ แมรีแอนน์ ฟอร์เรสเตอร์ (รับบทโดย Michelle Forbes) หญิงลึกลับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ เดินทางมาถึงเมือง เธอนำความโกลาหลและความวิปริตมาสู่ผู้คนในเมืองอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมทั้งปลุกเร้าความมืดที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของชาวบ้านให้ตื่นขึ้นมา
ในขณะเดียวกัน เจสสิก้า แฮมบี้ (รับบทโดย Deborah Ann Woll) แวมไพร์สาวที่ถูกบิลสร้างขึ้นในซีซั่นแรก ต้องพยายามปรับตัวและควบคุมสัญชาตญาณดิบของตนเอง ซึ่งทำให้บิลต้องคอยตามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ เจสัน สแต็คเฮาส์ (รับบทโดย Ryan Kwanten) พี่ชายของซูกี้ ก็เข้าไปพัวพันกับกลุ่มต่อต้านแวมไพร์ที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์สุดโต่งและการปั่นหัวชาวเมืองให้เกิดความเกลียดชังต่อเหล่าแวมไพร์
นอกเหนือจากภัยคุกคามจากภายนอกแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างซูกี้และบิลยังถูกทดสอบอย่างหนัก เมื่อความขัดแย้งภายในโลกแวมไพร์ และการมาถึงของตัวละครใหม่ ๆ ทำให้ความไว้วางใจระหว่างพวกเขาสั่นคลอน
True Blood Season 2 เต็มไปด้วยปมซับซ้อน การหักมุม และฉากที่ผสมผสานความแฟนตาซีสุดดาร์กกับดราม่าเข้มข้นแบบถึงพริกถึงขิง ซีรีส์ยังคงแฝงไปด้วยความดิบเถื่อน ตัณหา ความลับ และความขัดแย้งที่ทำให้ผู้ชมไม่อาจละสายตาไปได้ โดยเฉพาะการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมิดและการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด