เหตุการณ์ในซีซั่นนี้ดำเนินไปอย่างเข้มข้นและเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เมื่อภัยคุกคามใหม่ในรูปแบบของ แม่มด เข้ามาแทรกแซงโลกของมนุษย์และเหล่าแวมไพร์ หลังจากหายตัวไปหลายเดือน ซูกี้ สแต็คเฮาส์ (Anna Paquin) กลับมายังเมือง บอนเท็มพ์ และพบว่าโลกของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับสิ่งเหนือธรรมชาติ และการเมืองภายในหมู่แวมไพร์ที่ยังคงคุกรุ่น
ภัยคุกคามครั้งนี้นำโดย มาร์นี่ สโตนบรูค (Fiona Shaw) แม่มดผู้ทรงพลังที่สามารถควบคุมวิญญาณและเล่นงานเหล่าแวมไพร์ได้อย่างน่าสะพรึง มาร์นี่ใช้เวทมนตร์เพื่อแก้แค้นและสร้างความเสียหายแก่แวมไพร์ ทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความตึงเครียด เอริค นอร์ธแมน (Alexander Skarsgård) กลายเป็นเหยื่อของมนตร์สะกดจนสูญเสียความทรงจำ เขากลายเป็นแวมไพร์ที่ไร้พิษสงและอ่อนโยน ซึ่งทำให้เขาและซูกี้เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ใหม่ที่ลึกซึ้งและหวานซึ้ง ความสัมพันธ์นี้ทำให้ความรักสามเส้าระหว่างซูกี้, เอริค และ บิล คอมป์ตัน (Stephen Moyer) ยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ตัวละครอื่น ๆ ก็เผชิญกับความวุ่นวายของตนเอง:
ทาร่า ธอร์นตัน ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับพลังเวทมนตร์ของมาร์นี่
เจสสิก้า แฮมบี้ (Deborah Ann Woll) และ ฮอยต์ ฟอร์เทนเบอร์รี่ (Jim Parrack) ต้องเผชิญความสัมพันธ์ที่เริ่มสั่นคลอน เมื่อโลกของมนุษย์และแวมไพร์ปะทะกันอย่างรุนแรง
แซม เมอร์ล็อตต์ (Sam Trammell) ต้องจัดการกับอดีตและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของตนเอง
True Blood Season 4 เพิ่มความเข้มข้นให้กับเรื่องราวด้วยการผสมผสานธีมของแม่มด เวทมนตร์ และความลี้ลับเหนือธรรมชาติ พร้อมกับการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ซับซ้อน ทั้งความรัก การทรยศ และการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ทำให้ซีซั่นนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง