ซีซั่นนี้ความขัดแย้งระหว่าง มนุษย์ และ แวมไพร์ เข้าสู่จุดเดือด เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจออกมาตรการควบคุมแวมไพร์อย่างเข้มงวด หลังจากเหตุการณ์ความวุ่นวายจากซีซั่นก่อน ซึ่งส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างสองฝ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล พร้อมกับสงครามที่ใกล้จะแตกหักเต็มที
ซูกี้ สแต็คเฮาส์ (Anna Paquin) ยังคงต้องหาหนทางเพื่อเอาตัวรอดในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ขณะเดียวกันเธอเริ่มค้นพบความจริงเกี่ยวกับพลัง สายเลือดพิกซี่ ของเธอและต้องหาคำตอบเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริง นอกจากนี้ ความรักและความสัมพันธ์ของเธอกับแวมไพร์ในชีวิตยังถูกทดสอบครั้งใหม่
ทางด้าน บิล คอมป์ตัน (Stephen Moyer) หลังจากที่เขาดื่มเลือดของ ลิลิธ ในซีซั่นที่แล้ว บิลได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่ากลัว เขากลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือแวมไพร์ทั่วไปที่ถูกขนานนามว่า “บิลิธ” ด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว บิลต้องดิ้นรนหาทางควบคุมตัวเอง ท่ามกลางความหวาดกลัวและความไม่ไว้วางใจจากทั้งมนุษย์และแวมไพร์
เอริค นอร์ธแมน (Alexander Skarsgård) และพันธมิตรของเขาต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อรัฐบาลสร้าง ค่ายกักกัน สำหรับทดลองแวมไพร์ด้วยวิธีที่โหดร้าย พวกเขาต้องหาหนทางเอาตัวรอดและโต้กลับ พร้อมทั้งรักษาความอยู่รอดของพวกพ้องจากการถูกกวาดล้าง
ในขณะเดียวกัน ฝั่งของ มนุษย์หมาป่า และ แม่มด ต่างก็ต้องต่อสู้กับปัญหาของตนเอง ทั้งจากภัยคุกคามภายนอกและความขัดแย้งภายในกลุ่มของพวกเขาเอง ทุกตัวละครต่างต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งใหญ่ ทั้งเรื่อง ความรัก ความสูญเสีย และ ความจงรักภักดี ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิตของพวกเขา
True Blood Season 6 เต็มไปด้วยฉากแอ็กชันสุดเข้มข้น เลือดสาด และดราม่าผสมแฟนตาซีที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมกับการเปิดเผยความลับใหม่ ๆ ที่นำเรื่องราวเข้าใกล้บทสรุปของมหากาพย์สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ในซีซั่นสุดท้าย