ในซีซั่นสุดท้ายของ True Blood ความขัดแย้งที่ยาวนานระหว่าง มนุษย์ และ แวมไพร์ เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด เมืองเล็ก ๆ อย่าง บอนส์ แทมป์ กลายเป็นสมรภูมิสุดท้ายของการต่อสู้ครั้งใหญ่ หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัส Hep-V ซึ่งทำให้แวมไพร์จำนวนมากกลายเป็น แวมไพร์กระหายเลือด ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ความโกลาหล ความหวาดกลัว และความสูญเสียเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมนุษย์และแวมไพร์ต่างต้องหาทางเอาตัวรอด
ซูกี้ สแต็คเฮาส์ (Anna Paquin) ในฐานะหญิงสาวที่มีความสามารถพิเศษจาก สายเลือดพิกซี่ พยายามค้นหาหนทางสู่ความสงบสุขทั้งภายในใจและรอบตัว ขณะเดียวกัน ความรักของเธอและการยอมรับในตัวตนของตนเองถูกทดสอบอย่างหนักหน่วง
ด้าน บิล คอมป์ตัน (Stephen Moyer) แวมไพร์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความรักเดียวของซูกี้ เขาต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเขา ขณะที่ เอริค นอร์ธแมน (Alexander Skarsgård) และ พาเมล่า ยังคงต่อสู้กับอดีตอันซับซ้อน พร้อมทั้งบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของโลกแวมไพร์
นอกจากนี้ ตัวละครสำคัญอย่าง เจสสิก้า แฮมบี้ แวมไพร์สาวที่เติบโตขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ และ แซม เมอร์ล็อตต์ ชายผู้พยายามหาหนทางสร้างชีวิตใหม่ ต่างก็ต้องเผชิญกับบททดสอบสุดท้าย ที่เกี่ยวข้องกับความรัก การเสียสละ และการให้อภัย
True Blood Season 7 เป็นการปิดฉากเรื่องราวสุดยิ่งใหญ่ที่ทั้งดราม่าเข้มข้น เต็มไปด้วยความสูญเสีย ความหวัง และการค้นหาความสงบสุขของตัวละครหลัก พร้อมกับฉากแอ็กชันเลือดสาด และแฟนตาซีสยองขวัญที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้
บทสรุปสุดท้ายของ True Blood จะทำให้ผู้ชมได้เห็นเส้นทางชีวิตของตัวละครที่ต่างเติบโตผ่านความขัดแย้งและความเจ็บปวด พร้อมบทสรุปที่สมบูรณ์ในแบบของพวกเขาเอง เป็นการปิดตำนานซีรีส์แวมไพร์ที่ตราตรึงใจแฟน ๆ ทั่วโลก